2. งานอัดและฉีดพ่นน้ำยา

• ภายในอาคาร

การอัดน้ำยาและการฉีดพ่นในดินบริเวณพื้นที่ภายในอาคารนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ของพื้นที่ก่อสร้างนั้นๆ โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ

อาคารยกพื้นหรือคานต่างระดับ ( SLABS ON BEAM ) ในวันเดียวกับที่ทำการวางท่อหลังจากเสร็จสิ้นงานวางท่อ แล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการอัดน้ำยาลงดินบริเวณฐานของตัวอาคาร และรอบๆ ตอหม้อ โดยใช้หัวอัดแรงสูง ( SUB-SOIL HIGH PRESSURE INJECTOR ) อัดน้ำยาลงใต้ดินในระดับลึกประมาณ 1 – 1.5 ฟุต ห่างจากฐานอาคาร หรือ ตอหม้อ ประมาณ 20 ซ.ม. และทิ้งระยะห่างต่อจุดประมาณ 1 เมตรตามแนวยาว โดยใช้น้ำยาผสมแล้วในปริมาณ 5 ลิตรต่อ 1 จุด หลังจากนั้นจะทำการฉีดพ่นน้ำยาเคลือบผิวหน้าดิน โดยใช้หัวฉีดพื้นผิว ( SURFACE SPRAYER ) ฉีดพ่นแบบครอบคลุมทุกตารางนิ้ว โดยใช้น้ำยาผสมเสร็จในปริมาณเฉลี่ย 15 ลิตร ต่อทุก 7 ตารางเมตร

อาคารพื้นที่เต็ม ( SLABS ON GROUND) หลังจากที่ฝ่ายก่อสร้างได้ทำการปรับพื้นและพร้อมที่จะเทคอนกรีต ( อาจก่อนหรือหลังงานผูกเหล็กก็ได้ ) และเก็บเศษไม้ หมุดไม้ ตอไม้ และเศษขยะต่าง ๆ ออกหมดเรียบร้อยแล้ว ห้างฯ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการฉีดพ่นน้ำยาเคลือบผิวหน้าดินบริเวณภายในอาคารทั้งหมด โดยใช้หัวฉีดพื้นผิว (SURFACE PRAYER) ฉีดพ่นแบบปูพรมครอบคลุมทุกตารางนิ้ว โดยใช้น้ำยาผสมแล้วในปริมาณ 15 ลิตรต่อทุก 7 ตารางเมตร

• ภายนอกอาคาร

หลังจากที่ได้มีการปรับพื้นที่ภายนอกรอบ ๆ ตัวอาคารแล้ว ห้างฯ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำงานเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อทำการอัดน้ำยาเข้าท่อ และทำบริเวณรอบนอกที่เหลือทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่จะใช้หัวอัดแรงสูง ( SUB-SOIL HIGH PRESSURE INJECTOR ) อัดน้ำยาลงใต้ดินในระดับลึกประมาณ 1-1.5 ฟุต ห่างจากฐานอาคาร 20 ซม. และทิ้งระยะห่างต่อจุดประมาณ 1 เมตรตามแนวยาว โดยใช้น้ำยาผสมเสร็จในปริมาณ 5 ลิตร ต่อ 1 จุด หลังจากนั้นจะทำการฉีดพ่นน้ำยาเคลือบผิวหน้าดินตลอดระยะห่าง 1 เมตร รอบๆ ฐานอาคาร เพื่อให้น้ำยาซึมลงไปประสานกับน้ำยาที่อัดไว้ในชั้นใต้ดิน ใช้น้ำยาผสมเสร็จในปริมาณเฉลี่ย 15 ลิตรต่อทุกๆ 7 เมตร

• งานอัดน้ำยาเข้าท่อ เจ้าหน้าที่จะทำการอัดน้ำยาเข้าท่อในครั้งถัดไปในรอบการอัดน้ำยาเคมีรอบใหม่ เพื่อเคลือบบริเวณหน้าคาน และจุดสำคัญๆ (ณ.จุดที่มีวาวล์ฉีดน้ำยาเคมีบนท่อ)โดยใช้น้ำยาผสมเสร็จในปริมาณเฉลี่ย 15 ลิตรต่อ ทุกๆ ความยาว 3 เมตร ของท่อ

ลักษณะการวางท่อป้องกันปัญหาปลวกและการอัดน้ำยาเข้าท่อ